NUE
ปรากฏใน Heike Monogatari มีใบหน้าเป็นลิง, ขาเป็นเสือ , ลำตัวจะเป็นสุนัขหรือแลคคูน
และมีหางดป็นงู ตามที่เขียนมาเป็นบางครั้งที่ไม่มีอะไรจะระบุเกี่ยวกับตัวของมันหรือบางครั้งจะมีภาพที่มีลำตัวของเสือ นอกจากนี้ยังมีเอกสารต่างๆเช่น Genpei Josuiki ระบุว่ามีด้านหลังของเสือ ขาของทานูกิ และหางของสุนัขจิ้งจอก และหัวของแมว ลำตัวของไก่
แต่เดิมทีมันถูกระบุให้เป็นนกที่มีลักษณะเป็นไก่ฟ้าสีเขียว ซึ่งเป็นที่รู้จักกันใน 夜ภายในอักขระ is เป็นองค์ประกอบการออกเสียงและไม่ได้มีความหมายกับมัน ตัวอักษร鵼 (kou หรือ kuu) ถูกกำหนดให้เป็นนกแปลก ๆ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ Nuye ในช่วงแรก ๆ แม้ว่าจะมีความหมายที่แตกต่างกัน มันจะเรียกในฐานะ “นกนักร้องสีขาว” ในประเทศญี่ปุ่นพวกเขาจะถือว่านกที่ร้องในเวลากลางคืนนั้น มาบวกกับคำว่า“สามารถมองเห็นได้” ใน Kojiki และ yōshū นี้ให้คิดว่าเป็นนกที่มีสีเหลือง และสีแดง เป็นนกใหญ่ คือ “นกพิราบ” แต่ปัจจุบันมีทฤษฎีที่ได้รับการยอมรับว่าพวกมันไม่ได้เป็นนกพิราบ เนื่องจากคนสมัยเฮอันได้ยินเสียงที่เศร้าของนกตัวนี้ และเป็นสิ่งที่ไม่ดี omened พวกมันได้รับการยกย่องว่าเป็นนกชั่วร้ายและเป็นที่กล่าวว่า เมื่อจักรพรรดิ หรือ ขุนนางได้ยินเสียงร้องไห้ของมัน พวกเขาจะคิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรที่ไม่ดีขึ้นมา
แต่เดิมทีมันถูกระบุให้เป็นนกที่มีลักษณะเป็นไก่ฟ้าสีเขียว ซึ่งเป็นที่รู้จักกันใน 夜ภายในอักขระ is เป็นองค์ประกอบการออกเสียงและไม่ได้มีความหมายกับมัน ตัวอักษร鵼 (kou หรือ kuu) ถูกกำหนดให้เป็นนกแปลก ๆ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ Nuye ในช่วงแรก ๆ แม้ว่าจะมีความหมายที่แตกต่างกัน มันจะเรียกในฐานะ “นกนักร้องสีขาว” ในประเทศญี่ปุ่นพวกเขาจะถือว่านกที่ร้องในเวลากลางคืนนั้น มาบวกกับคำว่า“สามารถมองเห็นได้” ใน Kojiki และ yōshū นี้ให้คิดว่าเป็นนกที่มีสีเหลือง และสีแดง เป็นนกใหญ่ คือ “นกพิราบ” แต่ปัจจุบันมีทฤษฎีที่ได้รับการยอมรับว่าพวกมันไม่ได้เป็นนกพิราบ เนื่องจากคนสมัยเฮอันได้ยินเสียงที่เศร้าของนกตัวนี้ และเป็นสิ่งที่ไม่ดี omened พวกมันได้รับการยกย่องว่าเป็นนกชั่วร้ายและเป็นที่กล่าวว่า เมื่อจักรพรรดิ หรือ ขุนนางได้ยินเสียงร้องไห้ของมัน พวกเขาจะคิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรที่ไม่ดีขึ้นมา
เพิ่มเติม...
เรื่องราวของนูเอะ มีบันทึกอ้างถึงที่มาเป็นเวลาช้านาน มันเป็นสัตว์โบราณที่ถูกจาลึกไว้ในประวัติศาสตน์ญี่ปุ่นราวช่วง ค.ศ. 712 ในยุค นารา และปรากฏขึ้นอีกครั้งในยุค เฮอัน ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับ ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง ถือว่าเป็นยุครุ่งเรืองของปีศาจโดยแท้ แต่ก็กลับหายไปซะงั้น...จนมาโผล่อีกครั้ง ในช่วงสงครามกลางเมือง
มีคนเชื่อกันว่า มันเป็นนกในตำนาน (นกโบราณ) ที่จะออกหากินยามค่ำคืน เหมือนค้างคาว (ไม่ใช่ค้างคา..นะ) ราายละเอียดทางกายภาพนั้นมีน้อยมาก เพราะเนื่องจากมันเป็น Rare แบบยกกำลัง 4 จึงทำให้ข้อมูล หรือหลักฐานบางอย่างหายสาบสูญไป...แต่ถึงอย่างนั้น มันก็เป็นเรื่องเล่า และยังถูกจัดให้เป็นสัตว์ที่โคตรจะเกรียน!! เพราะไม่ว่าเมื่อใดที่ก็ตามที่มีคนเห็นมันบินอยู่บนท้องฟ้า นั้นหมายถึง Oh..Shit ซวยแล้วล่ะ งานนี้...จากบันทึกที่ยังคงเหลืออยู่เพียงน้อยนิดนั้น ได้กล่าวถึง เกรียนนูเอะ ไว้ว่า.....
มันได้เข้าโจมตีเมืองเกียวโต ในช่วง ค.ศ. 1153 ของยุค เฮอัน สมัยของจักรพรรดิโคโนเอะ เรื่องเกิดขึ้นใน ฤดูร้อน...พระองค์ทรงสุบิน (ฝัน) ถึงเรื่องราวที่น่ากลัวทุกคืน และทรงประชวร (ป่วย) อย่างหนัก และหมอหลวงไม่สามารถหาสาเหตุของอาการได้ สำคัญคือ ไม่มียารักษา นอกจากการสวดมนต์ ทางสำนักราชวังได้นิมนต์พระและนักบวช มาทำพิธีขับไล้วิญญาณร้ายที่ตามรังควานพระองค์...
จนวันนึง เวลาประมาณ ตี 2 เกิดฟ้าฝ่าลงมาที่หลังคาพระราชวัง เป็นเหตุให้เกิดไฟไหม้ เหตุการณ์นี้ถือเป็นลางร้ายจริงๆเชียว..!! พระองค์จึงรับสั่งให้ ซามูไร นามว่า มินาโมโตะ โยริมาสะ เข้าเฝ้าเป็นการด่วน เค้าได้รับคำสั่งให้ไปกำจัดสิ่งชั่วร้ายนี้ โดยใช้ธนู ตีบวก AGI + 99 ของ มินาโมโตะ โยริมัตสึ (เป็นบรรพบุรุษของ โยริมาสะ) ที่เคยใช้ปราบปีศาจแมงมุมยักษ์ได้...
กลางดึกคืนหนึ่ง มีกลุ่มก้อนเมฆสีดำ ลอยวนอยู่เหนือพระราชวัง สร้างความหวาดวิตกไปทั้วเมือง ชาวบ้านต่างพากันล่ำลือถึงความ ชิบหาย ที่จะเกิดขึ้น...ฝ่ายท่าน ซามูไร โยริมาสะ ยืนทอดสายตาไปยังก้อนเมฆสีดำนั้น พร้อมคิดไปพรางๆว่า "กูจะเอายังไงดีวะเนี้ย" ในที่สุด เค้าก็ตัดสินใจวิ่งกลับบ้านซะงั้น!!
เอาใหม่...เค้าตัดสินใจ บรรจุคันศร เข้ากับ คันธนูอย่างชำนาญ แล้วง่างมันออกจนสุดแขน แล้วเล็งไปที่ก้อนเมฆก้อนนั้น ราวกับว่าติดกล้องเอาไว้ เค้ากลั้นหายใจ แล้วปล่อยลูกศรออกไปด้วยความเร็วแสง...
และมันเข้าเป้าอย่างจัง นั้นทำให้มีเสียงร้องออกมาจากฟากฟ้า เสียงนั้นโหยหวนน่ากลัวบาดขั้วหัวใจ และตามมาด้วยเสียงระเบิดที่ดังสะนั่น และร่างของ เกรียนนูเอะ ก็ร่วงลงมาสู่พื้นดิน...
ผู้คนในเกียวโต ต่างหวาดกลัวต่อคำสาปแช่ง ที่จะเกิดขึ้นจากแรงอาฆาตของ เกรียนนูเอะ พวกเค้าจึงนำร่างของมันใส่เรือ และนำไปลอยทิ้งที่แม่น้ำ คาโนะ เรือเล็กๆ ที่มีร่างของ เกรียนนูเอะ ถูกน้ำพัดไปไกล จนกระทั้งไปเกยตื้นที่ชายฝั่งของหมู่บ้าน อาชิยะ ในจังหวัด เฮียวงะ มีชาวบ้านจิตใจดีคนนึงผ่านมาพบ เค้าได้นำร่างของ เกรียนนูเอะไปฝังทำพิธีกรรมทางศาสนา ซึ่งต่อมาบันทึกกล่าวถึงเนินดินที่ฝังร่างนั้นว่า...นูเอสุเกะ ในปัจจุบัน
...พอๆ จบ...